Operator | ความหมาย |
---|---|
== | มีค่าเท่ากับ |
!= | มีค่าไม่เท่ากับ |
< | มีค่าน้อยกว่า |
> | มีค่ามากกว่า |
<= | มีค่าน้อยกว่าหรือเท่ากับ |
>= | มีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ |
นอกจากนี้ยังมี operator ที่ใช้ในการเชื่อมเงื่อนไขเข้าด้วยกัน
Operator | ความหมาย |
---|---|
and | both are true |
or | one or other is true |
not | not true |
การตัดสินใจด้วย if
รูปแบบใน python คือ
if condition :
do this
condition ก็คือ comparison ระหว่างตัวแปรกับค่าบางค่าที่นำมาทดสอบ ถ้าผลที่ได้เป็น True ก็จะลงมาทำงานในชุดคำสั่ง do this ซึ่งอาจมีหนึ่งหรือหลายชุดคำสั่งก็ได้
เช่น
light = 2
if light < 5 :
print("The sun is going down")
light = 2
if light < 5 :
print("The sun is going down.")
print("You should turn the light on.")
ในกรณีที่ค่าของตัวแปรมีได้เพียงสองค่าคือ True หรือ False นิยมละการเขียน operator เช่น
light = False
if light == False :
print("The sun is going down")
จะเขียนเป็น
light = False
if not light :
print("The sun is going down.")
print("You should turn the light on.")
เพิ่มทางเลือกด้วย else
รูปแบบใน python คือ
if condition :
do this
else :
do this
เช่น
import datetime as d
n = d.datetime.now() # get current time
if n.hour < 12:
print("Good morning.")
else :
print("Good afternoon")
หากสองทางเลือกไม่พอ เพิ่มด้วย elif
ในกรณีที่มีทางเลือกมากกว่า 2 ทางเลือกจะใช้ elif มาช่วย เช่น
light = "green"
if light == "green":
print("Go !")
elif light == "amber": :
print("slow down !")
else :
print("stop !")
Python ไม่ใช้ ternary operations !
ในบางภาษามีการใช้ ternary operations เช่น
money = 500
where_to_go = (money > 5000)? "Chiang Mai" : "7-11"
แต่ในภาษา Python จะใช้ if else แทน
money = 500
if money > 5000 :
where_to_go = "Chiang Mai"
else :
where_to_go = "7-11"
หลายคนอาจมองว่าเป็นข้อด้อย เพราะต้องเขียน code ยาวขึ้น แต่ถ้ามองในกรณีที่ต้องเขียน comment ประกอบแล้ว การเขียนแบบ Python จะเขียนได้ง่ายกว่า
Sign up here with your email
ConversionConversion EmoticonEmoticon